บัญชีธนาคาร

บัญชีธนาคาร
บัญชีธนาคาร

วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2556

แต่งตา-ทาปาก-ปัดแก้มแบบใดผู้ชายสยบ!?


เราลองสุ่มถามผู้ชายกว่าร้อยคน ว่าสิ่งไหนบนใบหน้าของผู้หญิงที่เตะตาโดนใจพวกเขามากที่สุด ระหว่างดวงตากับปาก ปรากฏว่า 81 เปอร์เซ็นต์ของผู้ชายทั้งหมดบอกว่า "ตา" เเละอีก 19 เปอร์เซ็นต์ คือ "ปาก"
      
       งั้น เราลองมาถามและฟังนานาทัศนะของพวกผู้ชายกันอีกซักคำถามซิว่า พวกเขามีความคิดเห็นอย่างไรกับการแต่งหน้าของผู้หญิงในแต่ละจุดบ้าง
      
       ก่อนอื่นขอเกริ่นก่อนว่า นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าผู้หญิงได้ใช้สมองทั้งสองฝั่งในการประมวลความสวยงามของตนเอง โดยที่ฝ่ายชายนั้นใช้เพียงเเค่ฝั่งขวาข้างเดียว ผลก็คือผู้หญิงจะมองทะลุทะลวงไปถึงจุดเล็กๆ แทบจะทะลุรูขุมขนได้ละเอียดอ่อนมากกว่าผู้ชาย
      
       ในขณะที่ผู้ชายมองเพียงเเค่ภาพรวมเท่านั้น พวกผู้ชายเค้าไม่มาน่าสังเกตหรอกว่า ขนคิ้วที่คุณกันออกไปอาทิตย์ก่อน มันจะขึ้นมาเป็นตออีกสองเส้น จนทำให้คุณกระวนกระวายใจไม่กล้าสบตา หรือหวั่นใจว่า วันนี้ชั้นไม่ได้ใช้พู่กันทาปาก สีจะเนียนสม่ำเสมอทั่วปากหรือเปล่า อุ้ย! วันนี้เขียนคิ้วเท่ากันหรือเปล่าว้าา
      
       หรือพวงแก้มแดงๆ ที่คุณปัดบลัชออนสีพีซ แต่แฟนคุณดันบอกว่าวันนี้ปัดแก้มซะแดงแจ๋เป็นตูดลิง จนคุณทั้งคู่แทบทะเลาะกันเพียงเพราะแค่เรื่องสีเท่านั้น แก้มชั้นสีพีซอมชมพูนิดๆย่ะ ไม่ใช่สีแดงซะหน่อย โว๊ะ อีตาบ้า!
      
       สโมกกี้อายชายปลื้ม


http://www.manager.co.th/images/blank.gif
ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะหลงใหลชื่นชอบในการที่จะเล่นเมคอัพกับสีตาในโทนสีที่ออกไปทางสดใสซาบซ่าน สีชมพู ฟ้า เขียว เป็นต้น
      
       เเต่ในทางกลับกันผู้ชายมักชอบพวกหล่อนในการเขียนตาสีดำซะมากกว่า เช่น การทาตาเเบบ smoky eyeเเละการใช้อายไลเนอร์กรีดดวงตาให้คมกริบ
      
       การใช้อายแชโดว์ทาขอบตาสีดำนั้นจะทำให้ดวงตาของคุณดูสว่าง โดดเด่นขึ้น เเละเป็นการสร้างมิติ ราวกับดวงตาคุณกลมโตขึ้น ซึ่งมันจะทำให้แทบสะกดจิตพวกเขาได้ แทบอยากจ้องตาของคุณจนน้ำลายหก 2 หยดเลยทีเดียว
      
       อย่างที่นักวิทยาศาสตร์บอกว่าในใบหน้าของผู้หญฺิง ดวงตาคือสิ่งที่ผู้ชายชอบมองมากที่สุดกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ไงล่ะจ๊ะ
       

       ไม่เซียนจริงอย่า Fake ติดขนตาปลอม


http://www.manager.co.th/images/blank.gif
การติดขนตาปลอมเรามักจะใช้ในวันสำคัญวันพิเศษ เช่น นัดเดทกับหนุ่ม ซึ่งเราต้องจัดเต็ม จัดหนัก บางคนแต่งหน้าอยู่เกือบ 2 ชั่วโมง ในขณะที่นัดเจอผู้ชายไม่ถึงชั่วโมง หรือแค่เค้าเอาของมาให้เพียงไม่ถึงสิบนาที แต่อย่างว่าผู้หญิงเราต้องจัดหนัก จัดเต็ม สอดรับทุกสถานการณ์เอาไว้ก่อน
      
       แน่นอนการจัดเต็ม แต่งให้ครบเปรียบได้เหมือนกับการรำเเพนหางของของนกยูงเพื่อเรียกแขกดึงดูดความสนใจ แต่ถ้าคุณไม่มีความสามารถในการติดขนตาปลอม เพราะหากมือคุณไม่นิ่งพอกาวขนตาปลอมอาจจะเลอะเทอะ เหนียวเหนอะ กระพริบตาทีแทบกระพริบไม่ขึ้น
      
       แถมหากคุณไม่เซียนจริง อาจแปะได้ไม่เนียนกลายเป็นขนตามีสองชั้นระหว่างขนตาจริงกับขนตาปลอม จนอาจทำให้ผู้ชายของคุณหลุดขำก๊ากออกมาได้ เพราะพวกผู้ชายเขาไม่ชอบอะไรที่ดู fake พวกเขาต้องการเห็นคุณในจริงที่เป็นจริงมากกว่า
      
       เอางี้ ขอแนะนำ เพียงแค่คุณดัดขนตาปัดมาสคาร่า ก็ แจ่มจะแดมแจ่ม Wow ณ บัด Now โดนใจผู้ชายแล้วล่ะ ท่องไว้ อย่าเยอะ
      
      
 
เมกอัพธรรมชาติมันโดนใจ


http://www.manager.co.th/images/blank.gif
การเเต่งหน้าที่มากเกินไปหรือการแต่งหน้าไม่เป็น ดีแต่จะทำให้การเดทของคุณกับผู้ชายล่มไม่เป็นท่าแบบเรือไททานิคได้
      
       เเต่ถ้าเลือกเมกอัพแค่บางจุดแต่สำคัญที่สุด เช่น ตา กับปาก ก็เวิร์กแล้ว แนะนำให้ทา lip gloss เพื่อเพิ่มความแวววาวให้กับริมฝีปาก เเละปัดขนตากรุบกริบแต่อย่าจัดเต็มจนมาสคาร่าเลอะเทอะเป็นแพนด้า ซึ่งอาจจะดีกว่าที่คุณปล่อยให้หน้าโล้น ไม่แต่งแต้มอะไรเลย
      
       ผู้หญิงจะดูสวยได้สมกับเป็นผู้หญิงก็ตรงที่การเเต่งเสริมเติมสวย มันเป็นการบ่งบอกเป็นนัยเเฝงว่าคุณนั้นสนใจภาพลักษณ์ของตัวเองซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
      
       Amanda Redgrave ช่างเเต่งหน้าชาวนิวยอร์ก บอกทิปส์เมกอัพแบบไม่ต้องจัดเต็มว่า
      
       “4 อย่างที่ทำให้ผู้หญิงนั้นดูดีก็คือ ทาคอนซีลเลอร์ใต้ตากลบแพนด้านิดหน่อยเพื่อให้ดวงตาไม่ร่วงโรย ดวงตาสว่างใส ปัดมาสคาร่าให้ขนตาเข้ม และทา lip gloss ให้ริมฝีปากแลดูน่าจุ๊บ
      
       เเละสุดท้ายปัดเเก้มเล็กน้อย เพียงเเค่พอให้ใบหน้าของคุณดูมีสีสันขึ้น เพียงแค่นี้ก็ทำให้ชายหนุ่มมองตาเยิ้มแล้วล่ะ
       

       ปัดแก้มแดงน่าดึงดูด

http://www.manager.co.th/images/blank.gif
ทำไมพวงเเก้มที่สุกก่ำสีเเดงถึงดูเร่าร้อนนัก นักวิทยาศาสตร์ชี้ว่าการที่เลือดถูกขับให้ไปที่เเก้มจนหน้าเเดงฉ่ำนั้น เช่น เวลากินของมึนเมา มันจะทำให้ผู้หญิงดูน่าดึงดูด มีเสน่ห์ มากขึ้นอีกสองเท่าตัว
      
       ขอนั่งไทม์แมชชีน ย้อนไปในสมัยยุคหิน พวกคนยุคนั้นมักสังเกตว่าทารกจะมีสุขภาพดี เเข็งเเรง ก็จากการดูเเก้มของเด็กนั่นเอง หากเเก้มทารกน้อยเเดง เเสดงว่าเด็กคนนั้นไม่ป่วย สุขภาพดีเลิศพ่อแม่โล่งอกสบายใจหายห่วง
      
       รู้อย่างนี้แล้ว สาวๆ จ๋าเราต้องลองฝึกปัดเเก้มให้เข้ากับสีโทนใบหน้าของตัวเองบ้างนะ มิใช่ว่าสีผิวคล้ำแต่ปัดแก้มแดงแจ๋ นอกจากจะดูตลกแล้ว อาจทำให้สีแก้มดูช้ำเลือดช้ำหนองได้นะ จากหน้าดำเป็นเขียว ม่วง ได้
      
       และควรพวกบลัชออนไว้ในกระเป๋า ติดตัวไว้ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อครีม ฝุ่น ผง อะไรก็ว่า ไป ห้ามให้แก้มดูจืดเด็ดขาด เพราะอาจดูป่วย ไม่สดใสได้นะจ๊ะ พวกผู้ชายเค้าไม่รู้หรอก นึกว่าแก้มแดงเพราะเลือดฝาด หลอกลวงไปเถอะหากยังไม่ได้อยู่กินกันจนรู้ไส้รู้พุง แบบตื่นมาเจอเรานึกว่าซากศพเพราะไม่แต่งหน้า อิอิ
      
       กลัวการทาปากสีแปลก


http://www.manager.co.th/images/blank.gif
       ผู้หญิงเรามักชอบเล่นสนุกตามแฟชั่นกับสีของปากตัวเอง เช่น สีชมพูแต่ต้องมีสิบกว่าเฉด ในขณะที่ผู้ชายรู้เพียงว่า สีชมพูมันก็เหมือนกันหมด หรือผู้หญิงเราต้องไล่ล่าการตามเทรนด์เมกอัพเช่น ทาปากสีม่วง สีแดงแปร้ด
      
       ในทางกลับกัน เมื่อผู้ชายเห็นสีที่สดใสเด่นเเปลกตา พวกเขามักจะคิดว่า เฮ้ย จูบแล้วจะล้างออกไหมน่ะ เย้ย! สีนั้นเหรอที่เราจะจูบลงไปอ่ะ มันจะติดปากมั้ยนิ เเละนั้นเป็นเหตุผลที่ผู้ชายไม่ค่อยชอบสีที่ดูเเปลกเเตกต่างมากเกินไป
      
       เพราะพวกผู้ชายไม่รู้หรอกว่า ตอนนี้เทรนด์สีม่วงกำลังมา หรือเทรนด์การทาปากแบบไล่สีกำลังอิน พวกเขารู้แต่ว่า ปากย่อมมีแต่สีชมพูเท่านั้น!
สอบถามรายละเอียดได้ที่ 085-9083178 วราพร

ราคา 1500 บาท


เลือกโทนสีให้เหมาะกับรูปหน้าและสีผิว





เพิ่มความฮิพและเทรนดี้ให้กับสาววัยทำงานด้วยการนำจุดเด่นของคุณออกมาเผยโฉมให้กับหนุ่ม ๆ ได้เห็นในสไตล์สาวเอเชียให้ดึงดูดมากขึ้น ด้วยการเลือกโทนสีให้เหมาะกับรูปหน้าและสีผิวของคุณ แค่นี้ก็สวยได้โดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรมแล้วล่ะค่ะ

    สาวใบหน้ารูปไข่สามารถแต่งได้ทุกโทนสี แม้กระทั่งแนวแฟนตาซีก็สามารถเนรมิตความงามให้กับคุณได้เช่นเดียวกัน จุดเด่นที่สุดของคุณคือ ช่วงทีโซนและเรียวปากที่ได้รูปและสมส่วนมากที่สุดค่ะ ถ้าสาวคนไหนอยากให้ดูแปลกตาไปจากวันเดิม ๆ ของคุณ ลองเล่นสนุกกับการแต่งหน้าด้วยการเลือกโทนสีชมพูหรือสีแดง (ที่กำลังอินเทรนด์) ทาเรียวปากบาง ๆ แล้วเติมความสดใสด้วยกลอสแค่นี้ก็สวยได้โดยไม่ต้องแต่งเติมมากมาย แค่คบแป้งพัพฟ์เบา ๆ เป็นอันเสร็จพิธีสำหรับสาวใบหน้าเรียวค่ะ อ้อ! ที่สำคัญอย่าลืมเน้นช่วงดวงตาด้วยมาสคาร่าเพื่อความงอนงามจะทำให้คุณมีเสน่ห์เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าค่ะ


    โทนสีชมพูหรือน้ำตาลอมส้มเหมาะกับสาวที่มีใบหน้ากลมมากที่สุด ไม่ว่าคุณจะมีผิวสีขาวหรือคมเข้มก็สามารถแต่งได้เหมือนกัน ควรปัดพวงแก้มเป็นรูปวงรีแนวเฉียงตรงช่วงโหนกแก้มก็จะช่วยให้ดูหน้าเรียวได้ค่ะ สำหรับสาวรูปหน้ากลมนั้นขอแนะนำให้เลือกโทนสีชมพูจะเป็นการซอฟท์สวยรอดปลอดภัยมากที่สุด แต่เคล็ดลับอยู่ที่การนำแป้งไฮไลต์มาปัดช่วงบริเวณทีโซนและพวงแก้ม จะช่วยให้หน้าดูสว่างมากขึ้นค่ะ ควรเน้นดวงตาให้ดูกลมโตน่าดึงดูดมากที่สุดในใบหน้า ทำได้ง่าย ๆ ค่ะ แค่หาอายแชโดว์เนื้อครีม (เพื่อติดทนนาน) แบบไฮไลต์ใช้นิ้วเกลี่ยช่วงขอบตาล่างจากหัวตาไปประมาณสามส่วนสี่ของขอบตาล่างพอ และทำให้ดูฟุ้ง ๆ ด้วย อย่าลากแบบคม ๆ จะทำให้ดูบ๊องแบ๊วเกินวัย จากนั้นปัดมาสคาร่าชนิดที่ทำให้ขนตาดูหนาเป็นแพจะได้ลุคของสาววัยใสแทนหน้าซาลาเปา



     ไม่ต้องน้อยใจสำหรับสาว ๆ ที่มีช่วงกรามใหญ่ เราสามารถลดจุดด้อยตรงนั้นได้ด้วยการเน้นพวงแก้มสดใสเปล่งปลั่งแล้วใช้วิธีไล้โหนกแก้มให้ได้รูปแบบสาวหน้ารูปไข่ ควรเลือกบรอนเซอร์แต่งผิวโทนสีชมพูที่มีส่วนผสมปรับแต่งผิวให้ใบหน้าดูขาวกระจ่างใสก่อนแต่งหน้า (สำหรับสาวผิวคล้ำ) แล้วใช้บลัชออนชนิดครีมถ้าต้องการเน้นพวงแก้มสวยใสตลอดทั้งวันให้ลงครีมรองพื้นก่อนจะช่วยได้ แต่ช่วงหน้าฝนควรเลือกเครื่องสำอางชนิดฝุ่นจะดีกว่าเพราะจะได้ไม่เหนี่ยวเหนอะหนะ โทนสีที่เหมาะกับคุณคือ สีส้มลูกพีช สีชมพูหวานใส แล้วปัดแก้มแนวสามเหลี่ยมมุมคว่ำ โดยให้ถือแปรงปัดแก้มให้ดูหน้าเรียวเพื่อเสริมให้ใบหน้าดูมีเชฟได้ แค่นี้คุณก็เป็นผู้หญิงสวยที่สุดในออฟฟิศแล้วล่ะค่ะ

สอบถามรายละเอียดได้ที่ 085-9083178 วราพร 

ราคา 1500 บาท

วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2556

ปัดแก้มสีไหน ให้เข้ากับสีผิว





สีผิวของสาวๆ แต่ละคนก็จะต่างกันไป และสีผิวที่ต่างกันไปนั้นก็ย่อมจะมีผลต่อการเลือกสีของบลัชออนเพื่อให้เข้ากับสีผิวของเรา เราลองมาดูกันว่าสีผิวไหนเข้ากับบลัชออนสีอะไรกันบ้าง
โทนสีของบลัชออนที่เข้ากันได้ดีกับสีผิวนี้คือ บลัชออนโทนสีส้มพีช อย่างเช่น Ready To Face Wear Automatic Colours สีปัดแก้มชนิดฝุ่น ง่ายต่อการแต่งแต้ม สะดวกพกพาสี Orange Smoothie ที่ทำให้สาวผิวสองสี หรือผิวเหลืองกลับสดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้หน้าดูซีด
สาวผิวขาวนั้นค่อนข้างโชคดี ที่สามารถเลือกใช้บลัชออนสีใดก็ได้เพื่อแต่งแต้มสีสันตามแต่ละโอกาสที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นโทนชมพู โทนส้ม เราแนะนำให้ใช้ Gradation Compact Cheek Colours ให้แก้มระเรื่อสีนวลแก้ม พร้อมทั้งเพิ่มประกายเนื้อมุก เพื่อเพิ่มความสดใสให้กับสาวผิวขาว
สาวผิวสีเข้มนั้นก็สามารถสวยอย่างดูดีเจิดจรัสได้ด้วยบลัชออนสีโทนชมพูอมม่วง หรือโทนชมพูเข้มๆ Multiple Cream Blush Stick ปัดแก้มเนื้อครีมเนียนละเอียดให้แก้มเปล่งปลั่ง ระเรื่อดูอ่อนเยาว์ มีชีวิตชีวา สี Sicily ที่เข้ากันได้ดีกับสาวผิวสีเข้ม
เลือกซื้อบลัชออนครั้งต่อไป อย่าลืมเลือกซื้อสีให้เข้ากับสีผิวของเรา 

 สอบถามรายละเอียดได้ที่ 085-9083178 วราพร

ราคา 1500 บาท

8 เคล็ดลับการบำรุงผิวในแต่ละวัน





หลังจากที่เราได้เรียนรู้เกียวกับสูตรการทำสปาแบบพื้นฐานที่สามารถทำได้เองที่บ้านไปแล้ว ในเดือนนี้เราก็มีเคล็ดลับการดูแลสุขภาพผิวในแต่ละวันมาฝากกันเพื่อทำให้คุณมีผิวที่สวยงาม สดใสตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าสมกับเป็นสาวยุคใหม่ เราลองมาสำรวจกันว่า คุณดูแลตัวเองในแต่ละวันได้ตามเคล็ดลับที่ได้ไว้ให้หรือไม่


  สำหรับสาวๆหลายคนอาจจะเข้าใจผิดเรื่องการทำความสะอาดเครื่องสำอางออกจากผิวหน้าด้วยการล้างออกด้วยน้ำเพียงอย่างเดียวเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว ถือว่าเป็นความข้าใจผิดอย่างมากเพราะว่าสารประกอบที่ใช้ในการทำเครื่องสำอางประเภทครีมกันแดดจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าประเภท Cleansing หรือ Remover เช็ดเครื่องสำอางออกก่อนการล้างหน้าทุกครั้งซึ่ง Cleansing หรือ Remover จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกและสารที่ตกค้างและอุดตันสะสมในผิวออกได้อย่างหมดจด หลังจากนั้นก็ล้างหน้าออกด้วยน้ำสะอาดและ Cleansing แค่นี้คุณก็จะมีผิวหน้าที่สะอาดสดใส


   หลังจากที่เราได้ล้างหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้วคุณก็ควรที่จะใช้ลำลีชุบโทนเนอร์เช็ดผิวให้ทั่วทั้งใบหน้า วิธีการเช็ดหน้าที่ถูกต้องคือ การเช็ดขึ้นจากด้านล่างขึ้นสู่ด้านบนเพื่อเป็นช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นเข้าสู่รูขุมขนและช่วยทำความสะอาดรูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย


 หลังจากที่เช็ดหน้าผิวหน้าด้วยโทนเนอร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณควรนวดหน้าด้วยนิ้วมือของคุณซึ่งการนวดหน้าจะช่วยกระตุ้นการดูดซึมของเนื้อครีมเข้าสู่ผิวหน้าได้ดีมากขึ้น


ในตอนเช้าหลังจากที่เราทาครีมบำรุงผิวเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวหน้าจากอันตรายของแสงยูวีโดยผลการวิจัยทางการแพทย์ได้ค้นพบว่า ผู้คนส่วนใหญ่ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีจะต้องเผชิญกับแสงยูวีที่เป็นอันตรายต่อผิวมากและความรุนแรงของแสงจะเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 50-70 ของแสงทั้งหมด การหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งผิวหนัง ผิวหนังไหม้และการเกิดจุดด่างดำจากเม็ดสีผิวได้


  น้ำเป็นส่วนประกอบที่มีความสำคัญอย่ายิ่งต่อร่างกายของคนเราซึ่งร่างกายของคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบประมาณร้อยละ 60-70 ของเหลวในร่างกายทั้งหมดซึ่งคนเราจะมีการสูญเสียน้ำออกมาจากร่างกายผ่านปัสสาวะและเหงื่อออกจากร่างกายอย่างมากที่สุดประมาณ  2 ลิตร ดังนั้นการดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ลิตรจะช่วยรักษาความชุ่มชื่นและความสวยงามให้แก่ผิวหนังได้ดี


  สารต่อต้านอนุมูลอิสระจะช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระของเซลล์ในร่างกายที่ทำให้เกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยบนผิว  เพื่อป้องกันการเกิดสารอนุมูลอิสระคุณจำเป็นต้องรับประทานผลไม้สดที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระเช่น เบอร์รี่ ทับทิม ชา ส้มโอ อะโวคาโด และแครรอท เป็นต้น  และการใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของสารต่อต้านอนุมูลอิสระในผิวก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี


  การนอนพักผ่อนให้เพียงพอในตอนกลางคืนและการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวจะช่วยสร้างกระบวนการฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิวใหม่ได้ผลดีที่สุด โดยที่คุณภาพของการนอนจะช่วยสร้างการผ่อนคลายและเสริมสร้างสารอาหารให้แก่เซลล์ผิวได้ดี นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างกระบวนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและการเผาผลาญพลังงานในร่างกายอย่างสมดุล ถ้าหากว่าเรามีการนอนหลับที่ไม่เพียงพอจะส่งผลต่อทำให้ผิวเกิดการอ่อนล้า ความสามารถในการฟื้นฟูและการซ่อมแซมเซลล์ผิวใหม่จะลดลงทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำและหยาบกร้าน เป็นสิวอักเสบได้ง่าย นอกจากนี้มันยังส่งผลทำให้เกิดผิวแพ้ง่ายได้อีกด้วย



   การออกกำลังกายให้เหงื่อออกเป็นการขับสารพิษออกจากร่างกายได้ดีทางหนึ่งและทำให้ระบบไหลเวียนของเลือด ปอด หัวใจทำงานดีขึ้น ผิวพรรณสวยงาม ช่วยผ่อนคลายความเครียดทำให้นอนหลับสบาย , ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้นและช่วยควบคุมน้ำหนักตัว เป็นต้น  ถ้าหากว่าคุณได้ทำตามเคล็ดลับที่เรานำฝากกันได้ทุกวัน เราเชื่อว่าคุณจะมีผิวที่สวยสมวัย และมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรงตลอดไป
สอบถามรายละเอียดได้ที่ 085-9083178 วราพร

ราคา 1500 บาท

วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2556

8 วิธีบำรุงผิวอย่างมีประสิทธิภาพ






         เพราะการบำรุงผิวไม่ได้หมายถึงการทาครีมบำรุงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการบำรุงผิวอย่างถูกวิธี และเตรียมสภาพผิวหน้าให้พร้อมรับการบำรุง เพื่อให้สารบำรุงต่าง ๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนจะเตรียมผิวหน้าให้ได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่อย่างไรมาดูกันค่ะ

 
1. สครับผิว

         เซลล์ผิวหนังชั้นนอกสุดที่เริ่มหมดสภาพ จะทำหน้าที่คล้ายกำแพงที่ขัดขวางไม่ให้สารบำรุงผิวต่าง ๆ ผ่านลงสู่ชั้นผิวด้านล่างได้สะดวก ทำให้ผิวชั้นล่างไม่สดใส รวมทั้งชั้นบนเองก็หมองคล้ำอย่างเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพด้วย ลองสครับผิวด้วยสครับสูตรอ่อนโยนเป็นประจำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อขจัดผิวที่เสื่อมสภาพชั้นบนสุดออก เปิดทางให้ผิวชั้นล่างที่สดใสกว่าขึ้นมาทดแทน พร้อมทั้งรับการบำรุงได้อย่างเต็มที่ด้วย


 
2. เรียงลำดับการใช้ครีมบำรุงอย่างเหมาะสม

         จงจำไว้ว่าอะไรก็ตามที่ทาลงไปก่อนจะซึมซาบลงสู่ผิวได้ดีที่สุด เพราะฉะนั้น หากคุณต้องการให้ครีมบำรุงผิวชนิดใดออกฤทธิ์ดีที่สุด ก็ต้องทาครีมชนิดนั้นเป็นลำดับแรก อย่างเช่น หากต้องการให้รอยด่างดำดูจางลง ก็ต้องใช้ครีมลดรอยด่างดำก่อนครีมบำรุงผิวชนิดอื่น หรือหากคุณต้องการแก้ปัญหาผิวสองอย่างควบคู่ไปด้วยกัน อย่างเรื่องสิวและรอยด่างดำ ให้สลับใช้ครีมทั้งสองนั้นเป็นลำดับแรกสลับกันในช่วงเช้าและเย็น นอกจากกฎข้อนี้แล้ว สิ่งที่ควรทำตามอีกหนึ่งประการในการใช้ครีมบำรุงก็คือ ใช้ครีมที่มีความเข้มข้นน้อยไปหาครีมที่มีความเข้มข้นมาก อันจะทำให้สามารถซึมซาบลงสู่ผิวได้ดีพอ ๆ กันตามลำดับความเข้มข้นของมัน

  
3. ใช้ครีมบำรุงหลังล้างหน้าเสร็จใหม่ ๆ 

         ผิวหน้าที่เพิ่งผ่านการล้างมา มีคุณสมบัติคล้ายฟองน้ำ ซึ่งจะดูดซับสารบำรุงต่าง ๆ ได้ดีเยี่ยม เพราะฉะนั้นเวลาหลังอาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ จึงเป็นเวลาที่เหมาะที่สุดในการทาครีมบำรุงผิว

 
 
4. ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น

         การล้างหน้าด้วยน้ำพออุ่น ๆ เป็นการวอร์มผิวให้พร้อมรับการบำรุง อุณหภูมิจากน้ำอุ่นจะทำให้เซลล์ผิวรวมทั้งเส้นเลือดฝอยที่อยู่ใต้ผิวหนังขยายตัวเพื่อคายความร้อนที่สูงขึ้น นั่นหมายความว่ามีพื้นผิวที่พร้อมรับสารอาหารที่มีประโยชน์จากครีมบำรุงเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง

  
5. ทาครีมเนื้อหนักทับหลังการบำรุงผิว

         การทาครีมเนื้อหนักอย่างครีมที่มีส่วนผสมของปิโตรเลียมเจล เนเชอรัลบัตเตอร์ แว็กซ์ หรือ ออยล์ เป็นส่วนผสมหลัก เป็นลำดับสุดท้ายหลังจากเสร็จสิ้นการทาครีมบำรุงผิวอื่น ๆ จะเป็นการกักให้ครีมบำรุงผิวนั้นซึมลงสู่ผิวหน้าและทำงานได้อย่างเต็มที่ แต่มีข้อยกเว้นคือห้ามทำเช่นนี้กับครีมที่มีส่วนผสมของ เรตินอยด์ วิตามินซี และ ไฮโดรควิโนน ในเปอร์เซ็นต์สูง เพราะจะทำให้ออกฤทธิ์แรงเกินไป และเกิดอาการระคายเคืองผิวหน้าได้

 
6. ใช้เรตินอยด์ในยามก่อนนอนเท่านั้น

         ครีมบำรุงอย่างเรตินอยด์ที่ออกฤทธิต้านการเกิดริ้วรอยได้เป็นอย่างดี แต่เหมาะที่จะใช้ในเวลากลางคืนเท่านั้น เนื่องจากรังสียูวีที่มีอยู่ในแสงแดดจะรบกวนทำให้มันไม่สามารถออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ครีมจะทำงานได้ดีขึ้นในยามที่เราหลับ เพราะในขณะที่นอนอุณหภูมิของร่างกายจะสูงขึ้นราวครึ่งองศา เส้นเลือดฝอยอยู่ใกล้ผิวหนังมากขึ้น และขยายตัวกว่าปกติ ทำให้ผิวหนังสามารถดูดซับสารบำรุงได้ดีกว่า 
 7. ใช้เซรั่มเพื่อการบำรุงผิวอย่างล้ำลึก

         เซรั่มเป็นการนำเอาสารบำรุงต่าง ๆ ที่เคยอยู่ในรูปของครีมหรือโลชั่น มาเป็นรูปของเหลว ซึ่งนอกจากจะเข้มข้นกว่าเพราะไม่ต้องถูกเจือจางด้วยเนื้อครีมแล้ว ยังซึมซับลงสู่ผิวง่ายกว่าด้วย หากอยากบำรุงผิวให้เห็นผลทันใจกว่าการใช้ครีมบำรุง เซรั่มบำรุงผิวสามารถตอบโจทย์ข้อนี้ของคุณได้ดีทีเดียวค่ะ

  
8. จับคู่การบำรุงอย่างเหมาะสม

         การจับคู่ครีมบำรุงผิวให้เหมาะสมเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของครีมบำรุงผิวให้ดียิ่งขึ้น อย่างการจับคู่ระหว่างครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารกันแดดและสารแอนตี้ออกซิแดนท์ในตัว เนื่องจากในขณะที่ครีมกันแดดคอยปกป้องผิวจากรังสียูวี สารแอนตี้ออกซิแดนท์ก็จะทำงานได้ดีขึ้นเพื่อยับยั้งรังสียูวีที่อาจเล็ดลอดเข้ามาทำลายผิว และก่อตัวได้ดีขึ้นเพื่อยับยั้งปัจจัยอื่น ๆ ที่จะมาทำร้ายผิว หากครีมกันแดดที่คุณใช้ไม่มีส่วนผสมของสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ลองใช้ครีมอื่นที่มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ควบคู่ไปด้วยกันได้เช่นกัน นอกจากนี้ การจับคู่ระหว่างสารเรตินอยด์และไฮโดรควิโนน จะทำให้เกิดประสิทธิภาพสามารถลบเลือนจุดด่างดำได้ดียิ่งขึ้นด้วยค่ะ

         หากทำได้เช่นนี้ รับรองว่าสาว ๆ จะมีผิวสวยจากการได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่จากครีมบำรุงผิวที่ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพแน่นอนค่ะ
สอบถามรายละเอียดได้ที่ 085-9083178 วราพร

ราคา 1500 บาท




เลือกสีบลัชออนอย่างไร... ให้เกิดในใจชาย


  บลัชออนสีสวย ๆ ช่วยเติมความสดใสให้กับใบหน้า ทำให้พวงแก้มดูสุกปลั่ง มีสุขภาพดี แต่บลัชเองก็มีหลายโทน หลายเฉด จะเลือกสีบลัชอย่างไรให้เข้ากับตัวเอง ลองไปดูเคล็ดลับที่กระปุกดอทคอมนำมาฝากกันค่ะ





         หลักการเลือกสีบลัชประการแรก คือเลือกสีบลัชให้เข้ากับสีผิว ซึ่งจะทำให้แก้มดูเปล่งปลั่งเป็นธรรมชาติ สำหรับสาวผิวสองสีหรือผิวเหลือง เหมาะกับบลัชโทนส้มพีชเป็นที่สุด เพราะจะทำให้หน้าเปลือย ๆ ที่ดูซีด กลับสดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ส่วนสาวผิวขาวนั้นค่อนข้างโชคดี ที่สามารถไปได้ดีกับบลัชสีใดก็ได้ และสาวผิวเข้มก็ดูดีได้ ในสีชมพูอมม่วง (deep plum) หรือโทนชมพูเข้ม ๆ แต่สีแดงสดเองก็ทำให้สาวผิวเข้มดูเจิดขึ้นมาได้เช่นกัน


         นอกจากการเลือกสีบลัชตามสีผิวแล้ว การเลือกสีบลัชยังประยุกต์ให้เข้ากับสีผิวของคุณได้อีกด้วย อย่างสาวผิวเหลืองแต่มีบุคคลิกหวาน ๆ ลองบลัชโทนชมพู แต่เลือกเฉดอมส้มจาง ๆ มาใช้ได้ ทั้งนี้การเทสต์เฉดสีที่ลดหลั่นกันไปในแต่ละโทน จะทำให้คุณสามารถเลือกบลัชในโทนที่ต้องการ ทั้งยังเข้ากับสีผิวและบุคลิกของคุณไปได้พร้อม ๆ กันด้วยค่ะ


         สีบลัชมาตรฐานที่เข้ากันได้ง่ายกับทุกสีผิว เรียกได้ว่าถ้ามีสีนี้ติดกระเป๋าไว้ จะแบ่งให้เพื่อนคนไหนใช้ก็ได้ ก็คือบลัชสีส้มพีชอมชมพูนิด ๆ ที่มีประกายเมทัลลิคเล็ก ๆ ไม่ว่าสีผิวแบบไหน ก็รับรองได้ว่าปัดแล้วเกิดทุกคนแน่นอน


         นอกจากหลักการเลือกสีบลัชเหล่านี้แล้ว ยามไปเลือกซื้อบลัชออนตลับใหม่ อย่างเพิ่งเชื่อสีที่เห็นจากในตลับ แต่ให้ลองเทสต์ลงบนผิวของคุณ เพื่อให้ได้สีสันจริง ๆ ของบลัชที่จะปรากฏเมื่อแต่งแต้มลงบนพวงแก้มของคุณด้วยนะคะ
สอบถามรายละเอียดได้ที่ 085-9083178 วราพร

ราคา 1500 บาท